top of page
ค้นหา

คู่มือการทำฝ้าห้องน้ำ: เลือกวัสดุอย่างไรให้ทนทาน ไม่ขึ้นรา


แนะนำการทำฝ้าห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่มี ความชื้นสูง และอาจมีปัญหา ไอน้ำ, น้ำรั่วซึม และเชื้อรา ได้ง่ายกว่าห้องอื่นๆ ทำให้การเลือกฝ้าเพดานสำหรับห้องน้ำ ต้องใช้วัสดุที่ทนความชื้นและป้องกันเชื้อรา รวมถึงต้องติดตั้งอย่างถูกต้องเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

ในบทความนี้ ผมจะมาแนะนำ ประเภทของฝ้าห้องน้ำ, ข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบ, ขั้นตอนติดตั้ง และเทคนิคการดูแลรักษา เพื่อช่วยให้คุณได้ฝ้าที่สวยงามและทนทาน


1. ประเภทของฝ้าเพดานห้องน้ำ

ฝ้าเพดานห้องน้ำต้องใช้วัสดุที่ทนต่อความชื้น (Moisture Resistant Ceiling) ซึ่งมีให้เลือกหลักๆ 3 ประเภท ได้แก่

1.1 ฝ้ายิปซั่มกันชื้น (Moisture Resistant Gypsum Board)

✅ ลักษณะ:

  • ทำจากแผ่นยิปซั่มเคลือบสารกันชื้น ผิวหน้ามีสีเขียว


    ✅ ข้อดี:

  • ราคาถูกกว่าวัสดุอื่น

  • สามารถฉาบเรียบและทาสีได้

  • ดูสวยงามแบบฝ้าฉาบเรียบ


    ✅ ข้อเสีย:

  • หากมีน้ำรั่วซึมสะสม อาจเกิดเชื้อราและบวมได้

  • ต้องติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อลดความชื้น

เหมาะสำหรับ: ห้องน้ำภายในบ้านที่มีระบบระบายอากาศดี


1.2 ฝ้าไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement Board)

✅ ลักษณะ:

  • ทำจากปูนซีเมนต์ผสมเส้นใยไฟเบอร์ ทำให้ทนต่อความชื้นและปลวก


    ✅ ข้อดี:

  • กันน้ำและกันเชื้อราได้ดี

  • แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาว


    ✅ ข้อเสีย:

  • น้ำหนักมากกว่าฝ้ายิปซั่ม ติดตั้งยากกว่า

  • หากติดตั้งผิดวิธี อาจเกิดการแตกร้าวได้

เหมาะสำหรับ: ห้องน้ำที่ต้องการฝ้าทนทาน ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั่ว


1.3 ฝ้าอลูมิเนียมหรือ PVC (Aluminum / PVC Ceiling)

✅ ลักษณะ:

  • ใช้แผ่นอลูมิเนียมหรือ PVC มาทำเป็นแผ่นฝ้า


    ✅ ข้อดี:

  • ทนน้ำ 100% ไม่เป็นเชื้อรา

  • ติดตั้งง่าย และถอดทำความสะอาดได้


    ✅ ข้อเสีย:

  • ดีไซน์อาจไม่สวยเท่าฝ้าแบบฉาบเรียบ

  • อาจเกิดเสียงดังหากฝ้าหลุดจากโครงสร้าง

เหมาะสำหรับ: ห้องน้ำที่ต้องการฝ้าทนทาน และสามารถถอดซ่อมแซมง่าย


2. ขั้นตอนการติดตั้งฝ้าห้องน้ำ

1️⃣ วัดขนาดพื้นที่และออกแบบโครงฝ้า

  • วัดขนาดห้องน้ำและกำหนดระดับฝ้าที่ต้องการติดตั้ง

  • เว้นช่องสำหรับ ไฟเพดาน, ช่องระบายอากาศ และฝาเซอร์วิส (Access Panel)

2️⃣ ติดตั้งโครงเคร่าฝ้า

  • ใช้ โครงเหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel) หรือโครงอลูมิเนียม

  • หลีกเลี่ยงโครงไม้ เพราะอาจบวมเมื่อโดนความชื้น

3️⃣ ติดตั้งแผ่นฝ้า

  • ใช้สกรูยึดแผ่นฝ้าให้แน่น โดยเว้นระยะห่างระหว่างสกรู 20-30 ซม.

  • ถ้าใช้ฝ้ายิปซั่ม ควรทาน้ำยากันชื้นเพิ่ม

4️⃣ ฉาบรอยต่อและทาสีป้องกันเชื้อรา

  • หากใช้ฝ้ายิปซั่ม ควรใช้ปูนฉาบกันเชื้อรา

  • ทาสี อะคริลิคกันเชื้อรา (Anti-Fungal Paint) เพื่อป้องกันความชื้น

5️⃣ ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ (ถ้ามี)

  • หากห้องน้ำไม่มีหน้าต่าง ควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพื่อไล่ความชื้น


3. เคล็ดลับเลือกฝ้าห้องน้ำให้ใช้งานได้นาน

✅ เลือกฝ้าที่เหมาะสม

  • ห้องน้ำในบ้านที่มีพัดลมระบายอากาศ → ใช้ฝ้ายิปซั่มกันชื้น

  • ห้องน้ำที่มีโอกาสโดนน้ำโดยตรง → ใช้ฝ้าไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือ PVC

✅ ทำฝ้าให้มีช่องเซอร์วิส (Access Panel)

  • เพื่อให้ช่างสามารถเข้าซ่อมระบบไฟและท่อน้ำได้ง่าย

✅ ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ

  • ลดความชื้น ลดการเกิดเชื้อรา และช่วยให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น

✅ ใช้สีทาฝ้าแบบกันเชื้อรา

  • ควรใช้สี Acrylic Latex ที่มีสาร Anti-Fungal เช่น TOA Supershield หรือ Jotun Jotashield

✅ หลีกเลี่ยงฝ้าไม้หรือฝ้าไม่กันชื้น

  • เพราะอาจเกิดปัญหาบวมและเชื้อราในอนาคต


4. การดูแลรักษาฝ้าห้องน้ำ

✅ ทำความสะอาดฝ้าเป็นระยะ

  • ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดฝ้าเพื่อลดคราบน้ำและเชื้อรา

✅ ตรวจสอบรอยรั่วจากหลังคาและท่อน้ำ

  • หากมีรอยน้ำซึม ต้องรีบซ่อมแซมก่อนที่ฝ้าจะเสียหาย

✅ หากเกิดเชื้อรา ให้รีบทาสีใหม่

  • ใช้สีน้ำอะคริลิคกันเชื้อรา ทาทับบริเวณที่มีเชื้อราเพื่อป้องกันการลุกลาม

✅ หากใช้ฝ้า PVC หรืออลูมิเนียม ให้เช็คการยึดติดอยู่เสมอ

  • ป้องกันฝ้าหลุดร่วง โดยเฉพาะในห้องน้ำที่มีแรงลมจากพัดลมระบายอากาศ


สรุป

✅ ฝ้าห้องน้ำต้องทนความชื้น เลือกฝ้า ยิปซั่มกันชื้น, ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือ PVC

✅ ติดตั้งโครงเคร่าที่ไม่เป็นสนิม เช่น เหล็กชุบกัลวาไนซ์ หรือโครงอลูมิเนียม

✅ ทาสีกันเชื้อรา และติดพัดลมระบายอากาศ เพื่อลดความชื้น

✅ ทำช่องเซอร์วิสเพื่อซ่อมแซมง่าย ป้องกันปัญหาซ่อมระบบไฟและท่อน้ำในอนาคต


การเลือกฝ้าห้องน้ำที่เหมาะสม ช่วยลดปัญหาการรั่วซึม เชื้อรา และยืดอายุการใช้งาน ทำให้ห้องน้ำของคุณดูสวยและสะอาดได้นานขึ้น

กำลังมองหาช่างติดตั้งฝ้าห้องน้ำ? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนติดตั้งเพื่อความคุ้มค่าและปลอดภัย!

 
 
 

Comments


© 2020 D Pat Town โทร 062-293-7949 ดีพัฒทาวน์

bottom of page